OEM: ย่อมาจาก Original Equipment Manufacturer หมายถึง ผู้รับจ้างผลิตสินค้าให้กับแบรนด์อื่น
ODM: ย่อมาจาก Original Design Manufacturer หมายถึง ผู้รับจ้างออกแบบและผลิตสินค้าให้กับแบรนด์อื่น
แล้ว OEM และ ODM ต่างกันอย่างไร?
OEM:
- เน้นผลิตสินค้าตามแบบที่ลูกค้ากำหนด
- ลูกค้าต้องออกแบบสินค้าเอง
- โรงงาน OEM มักมีสินค้าหลากหลายประเภท
- เหมาะสำหรับผู้ที่มีแบรนด์อยู่แล้ว ต้องการหาโรงงานผลิตสินค้า
- ง่ายต่อการเปลี่ยนลักษณะของสินค้าหรือกลยุทธ์ต่างๆทางธุรกิจเพราะเจ้าของแบรนด์นั้นไม่ต้องมีโรงงานเป็นของตัวเอง
- มีผู้เชี่ยวชาญฝ่ายผลิตและที่ปรึกษาทางการผลิตคอยทำหน้าที่แทนเรา ไม่ต้องดูแลหรือมีความรู้ทางด้านการผลิตเอง
ODM:
- เน้นออกแบบและผลิตสินค้าให้กับลูกค้า ลูกค้าไม่ต้องออกแบบเอง
- ลูกค้าสามารถบอกความต้องการและให้โรงงานออกแบบสินค้าให้
- โรงงาน ODM มักมีสินค้าเฉพาะประเภท
- เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเริ่มสร้างแบรนด์ โดยไม่ต้องออกแบบสินค้าเอง
ตัวอย่าง OEM และ ODM
OEM: โรงงานรับผลิตเสื้อผ้า ลูกค้ามีแบรนด์อยู่แล้วสามารถออกแบบเสื้อผ้าเอง และจ้างให้โรงงานผลิตตามแบบที่เราออกแบบแล้วติดแบรนด์
ODM: โรงงานรับผลิตเครื่องสำอาง ลูกค้าสามารถบอกความต้องการ เช่น ประเภทของเครื่องสำอาง กลุ่มเป้าหมาย คุณสมบัติ และให้โรงงานออกแบบและผลิตสินค้าให้
OEM และ ODM เป็นรูปแบบการผลิตสินค้าให้กับแบรนด์อื่น โดย OEM เน้นผลิตสินค้าตามแบบที่ลูกค้ากำหนด ส่วน ODM เน้นออกแบบและผลิตสินค้าให้กับลูกค้า เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเริ่มสร้างแบรนด์ โดยไม่ต้องออกแบบสินค้านั้นเอง
นอกจากนี้ยังมีคำย่ออื่นๆที่เกี่ยวกับการผลิตเช่น
OBM: ย่อมาจาก “Original Brand Manufacturer” หมายถึง ผู้ผลิตสินค้าภายใต้แบรนด์ของตัวเอง เหมาะสำหรับผู้ที่มีทุนและต้องการควบคุมกระบวนการผลิตทั้งหมด
CDM: ย่อมาจาก “Contract Design Manufacturer” หมายถึง ผู้รับจ้างออกแบบและผลิตสินค้าให้กับแบรนด์อื่น คล้ายกับ ODM แต่ CDM มักเน้นการออกแบบเฉพาะทาง