พูดถึงเรื่อง Future Tense หรืออนาคตกาล เป็นการใช้รูปประโยคในภาษาอังกฤษเพื่อแสดงถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอนาคต หรือคาดการณ์ว่ากำลังจะเกิดขึ้นอย่างแน่นอน โดยในภาษาอังกฤษจะมีการผันกิริยาและมีการนำ will เข้ามาในรูปประโยค ซึ่ง will โดยทั่วไปก็จะมีความหมายว่า จะ…. นั่นเอง และ Future Tense ก็แบ่งออกเป็น 4 แบบย่อยๆ ดังนี้

1.    Future Simple Tense               Subject + will+ V. infinitive without to

•ใช้กับการเหตุการณ์ที่ไม่ได้วางแผนไว้ แบบอยู่ๆก็จำเป็นจะต้องทำขึ้นมา เช่น Hold on, please .I will transfer the line to Mr. Team
•ใช้กับการคาดคะเน เช่น It will rain tomorrow.
•ใช้กับการสัญญา เช่น I will call you as soon as possible.
•การบอกการวางแผนในอนาคตไว้แล้ว เช่น Mint is going to study a master’s degree in August.

2.    Future Continuous Tense        Subject + will be + V.1 เติม ing

•ใช้กับการกระทำที่จะกำลังกระทำอยู่ในอนาคต เช่น I will be studying tomorrow.
•ใช้ร่วมกับ Present Simple Tense เช่น He will be calling Nan when his girlfriend arrives.
•ใช้กับการกระทำคู่ขนานในอนาคต หมายความว่ามี 2 เหตุการณ์เกิดขึ้นพร้อมกัน เช่น I will be sleeping while you are watching the football match tonight.

3.   Future Perfect Tense        Subject + will have+ V.3

• ใช้บอกการกระทำที่เกิดขึ้นในอนาคตที่เกิดก่อน Future Simple Tense แต่เหตุการณ์ที่เป็น Future Simple Tense จะเป็น Present Simple Tense แทน เช่น Pan will have taken a medicine before he goes to bed tonight.

4.    Future Perfect Continuous Tense      Subject + will have been + V.1 เติม ing

• ใช้กับการกระทำที่จะดำเนินอยู่ช่วงระยะเวลาหนึ่งในอนาคต เช่น Kathie will have been studying Japanese for 3 year by the time she works in Japan.
• ใช้บอกสาเหตุของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอนาคต เช่น He will be sleepy. He will have been watching a football match all night next week.

ก็ครบแล้วทั้ง 3 Tense ที่นำเสนอไปตั้งแต่ [Part1] จนถึง [Part4] เป็นอย่างไรกันบ้าง ได้เห็นหลักการวิธีการใช้และตัวอย่างประโยคที่แสนจะจดจำง่ายต่อการนำไปใช้และแบ่งแยกออกอย่างชัดเจน โดยสิ่งที่จะทำให้เราเข้าใจภาษาอังกฤษและวิธีการนำไปใช้ได้อย่างแม่นยำนั้น อยากจะบอกเคล็ดลับว่า เพียงแค่จำตัวอย่างประโยคของแต่ละ Tense ให้ได้ครบเพียงเท่านี้เราก็สามารถนำภาษาอังกฤษไปใช้ได้อย่างคล่องแคล่ว ทุกสถานการณ์แล้วเพราะถ้าเราจำรูปประโยคได้ แล้วปรับเปลี่ยนคำศัพท์เท่านั้นเอง ลองนำไปปรับใช้กันดู รับรองว่าได้ผลแน่นอน