การเขียนภาษาอังกฤษ ก็เป็นอีกหนึ่งทักษะที่สำคัญสำหรับการเรียนและการทำงาน เพราะหลายครั้งที่เราจะต้องใช้การเขียนภาษาอังกฤษในการติดต่อประสานงาน ในขณะที่ด้านการเรียนก็จะต้องใช้เพื่อเขียน Essay และการเรียนในระดับที่สูงขึ้น
ดังนั้นวันนี้เรามาดูโครงสร้างการเขียนแบบ Academic Writing หรือการเขียนเชิงวิชาการที่เป็นทางการมากขึ้น เพื่อจะได้นำไปใช้ประโยชน์กันในอนาคต โดยปกติแล้วเรามักจะเห็นบทความทางวิชาการ ที่มักมีโครงสร้างประโยค 2 แบบนี้
1.It + is + an adjective + that clause. = นี่เป็นวิธีการเขียนเพื่อแสดงความคิดเห็น ทัศนคติ หรือตำแหน่ง ปกติจะใช้เมื่อพิจารณาแนวความคิดหรือไอเดีย
ตัวอย่างเช่น It is clear that the evidence is… จะเห็นว่าตรงตามโครงสร้างประโยคเลย ทั้งที่ถึงแม้ว่ามันจะเป็นการแสดงความคิดเห็นของตัวผู้เขียนเอง แต่ผู้เขียนจะไม่เขียนไปว่า I think.. แม้จะมีความหมายเหมือนกัน แต่ในเชิงการเขียนแบบวิชาการแล้วจะไม่นิยมใช้ I , You หรืออะไรก็ตามที่ดูไม่เป็นทางการมาเขียน
2.It + is + an adjective + an infinitive phrase. = แบบนี้เป็นการเขียนเพื่อบรรยายการกระทำ เพื่อแสดงการประเมินของผู้เขียน
ตัวอย่างเช่น It is difficult to define these ideas. , It is hard to understand sentences these effects. , It is necessary to carry out further research. จากประโยคเหล่านี้ก็เป็นการแสดงและอธิบายถึงความยากและความจำเป็น
จากโครงสร้างการเขียนทั้ง 2 แบบ ด้านบนสามารถนำไปปรับใช้เพื่อเขียนภาษาอังกฤษแบบ Academic Writing แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องดูประเภทของการเขียนอีกทีด้วย ว่าสิ่งที่เราเขียนนั้นเพื่ออะไร เพราะบางคนก็เขียน สำหรับธุรกิจ สำหรับสอบ สำหรับเรียงความ ก็ต้องพิจารณาไปตาประเภทของหลักการเขียน
แต่ก็ต้องบอกไว้ก่อนว่าทักษะการเขียนที่ดีก็มาจากการอ่านที่ดีมาก่อนเพราะการอ่านจะช่วยในด้านการคุ้นเคยกับโครงสร้างประโยคและคำศัพท์ ฉะนั้นถ้าอยากเขียน Academic Writing ให้ได้ดีก็จะต้องฝึกอ่านบทความที่เกี่ยวกับ Academic ให้มากเพื่อพัฒนาการเขียนภาษาอังกฤษให้ได้เร็วยิ่งขึ้น